Q-SWITCH LASER
นวัตกรรมแห่งการรักษาฝ้า กระ รอยสัก รอยดำจากสิว เพื่อผิวแลดูกระจ่างใสเรียบเนียน มิติใหม่แห่งการลดเลือนจุดด่างดำ @Dmor Clinic “นวัตกรรมที่ดีที่สุด แห่งการรักษาฝ้า กระรอยสัก รอยดำจากสิว เพื่อผิวขาวกระจ่างใสเรียบเนียนมิติใหม่แห่งการลดเลือนจุดด่างดำ”
Q-Switch Laser
- เลเซอร์ในกลุ่มที่ใช้รักษา ฝ้า กระ ปาน ลบรอยแผลเป็นและรอยสัก ซึ่งให้ผลประสิทธิภาพดีกว่า IPL หลักการคือ เป็นการปล่อยพลังงานแสงออกมาเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ และจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ปกติต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง ครั้ง เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของเม็ดสีในบริเวณนั้น

Q-Switch Laser ช่วยในเรื่องอะไร
ช่วยในการรักษาฝ้า กระลึก คลื่นแสงของ Q-Switch มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเม็ดสี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้าเพื่อให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ นุ่มนวล เรียบเนียน ซึ่งทำได้ดีกว่าการทำ IPL ปกติ สำหรับ Laser Q-switch นั้นในการยิงครั้งแรกจะเห็นผลได้ดีประมาณ 80% ทั้งนี้ควรทำอย่างน้อย 3 ครั้ง และเว้นระยะห่างประมาณ 3-6 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า หลังยิงบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้นเนื่องจากเลเซอร์ได้ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีผิดปกติไป ทำให้เกิดการแตกตัวของเซลล์สร้างเม็ดสีที่เป็นส่วนเล็กๆที่เม็ดเลือดขาวสามารถกำจัดออกไปได้
เมื่อร่างกายกำจัดเม็ดสีเหล่านี้หมด ผิวบริเวณนั้นจะค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติพร้อมกับความกระจ่างใส ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล Q-Switch ช่วยในการลบรอยสัก ปาน เป็นการใช้หลักการเดียวกัน แต่เครื่องที่มีความถี่ต่ำ จะเหมาะกับการลบรอยสักสีแดง ส่วนเครื่องที่มีความถี่สูงจะเหมาะกับการลบรอยสักสีดำและสีน้ำเงิน การลบรอยสักให้ได้ผลดี อาจต้องยิงซ้ำหลายๆครั้งขึ้นอยู่กับสีและระยะเวลาการสัก เพราะการกำจัดเซลล์สีในแต่ละครั้งต้องเริ่มจากการกำจัดเซลล์สีในส่วนชั้นบนก่อน และต้องรอให้ร่างกายซ่อมแซมในส่วนที่บาดเจ็บแล้วจึงมีการทำซ้ำเพื่อการทำลายเซลล์สีในชั้นต่อไป การลบรอยสัก ควรยิงซ้ำประมาณ 3-6 ครั้ง ระยะห่างประมาณ 2 สัปดาห์ สีของรอยสักที่สามารถรักษาได้ดีคือรอยสักที่มีสีดำ น้ำตาล ฟ้า แดง แต่ไม่สามารถรักษารอยสักสีเขียวและเหลืองได้Q-Switch ช่วยทำให้ปากชมพู เลเซอร์ชนิดนี้สามารถลดรอยคล้ำของริมฝีปาก ช่วยทำให้ปากชมพู ต้องยิงอย่างน้อย 3 ครั้งถึงจะเห็นผล ระยะห่างจะเป็น 1-2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้รอยคล้ำจางลง
ขั้นตอนการทำ
ทายาชาทิ้งไว้ก่อนประมาณ 40 นาที – 1 ชม. หลังจากนั้นจะยิง Laser ด้วยเครื่อง Q-Switch ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที แล้วแต่บริเวณที่ทำ ในขณะทำอาจมีอาการแสบร้อนบ้าง แต่จะดีขึ้นหลังทำประมาณ 30 นาที ผลหลังการรักษา 4-5 วัน คืออาจมีรอยดำที่เข้มขึ้นหรือสะเก็ดในบริเวณที่ทำ ซึ่งรอยหรือสะเก็ดจะเข้มขึ้นและหลุดออกภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือ 2-3 เดือน หลังจากนั้นผิวในบริเวณนั้นจะกระจ่างใสขึ้นการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ อาศัยหลักการปล่อยพลังงานเลเซอร์ผ่านผิวหนัง (ที่มีรอยสัก) ด้านบนลงไปสู่เม็ดสีที่อยู่ใต้ผิวหนังด้านล่าง แล้วเลเซอร์จะทำให้เม็ดสีของรอยสักนั้นแตกออก จากนั้นเม็ดเลือดขาวของร่างกายก็จะมาเก็บเม็ดสีที่แตกนั้นไป โดยที่ผิวหนังด้านบนนั้นยังปกติและปลอดภัย
ผลข้างเคียง
มักจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ยกเว้นบางกรณีอาจจะเกิดรอยด่างหรือรอยดำ ซึ่งสามารถหายเป็นปกติได้ สำหรับการเกิดแผลเป็นโอกาสค่อนข้างน้อย
ในการรักษาแต่ละครั้งใช้เวลานานแค่ไหน?
การรักษาอาจใช้เวลาตั้งแต่ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
ต้องรับการรักษากี่ครั้งจะเห็นผล?
ส่วนใหญ่การรักษาควรต่อเนื่องตั้งแต่ 4 – 6 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปหลังการรักษาเพียงครั้งเดียวจะรู้สึกได้ว่า ผิวเรียบขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น รอยดำและรอยแดงจางลง หลังการรักษาประมาณ 4 – 6 ครั้ง รอยแดงและรอยดำรวมทั้งกระตื้นจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด สีผิวสม่ำเสมอและเนียนใส
รีวิวจาก Facebook
No posts found!
รีวิว Q-SWITCH LASER

ข้อควรรู้ศัลยกรรมจมูกที่ไหนดีให้ได้ทรงจมูกรับกับใบหน้า สัดส่วนพอดีแบบธรรมชาติ
ในปัจจุบันนี้คลินิกศัลยกรรมก่อตั้งขึ้นมาแข่งขันกันมากมายหลายคลินิก เพราะในปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมสูง ใครๆก็ต่างที่อยากได้ใบหน้าที่มีความสมบูรณ์ทั้งนั้น การศัลยกรรมจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนึ่งในการศัลยกรรมยอดฮิตที่สุด นั่นก็คือ การศัลยกรรมจมูก เนื่องจากจมูกเป็นจุดที่อยู่กึ่งกลางของใบหน้า เป็นส่วนที่สามารถบ่งบอกมิติของใบหน้าได้เป็นอย่างดี หากมีจมูกที่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ดูดีและมีทรงจมูกที่รับกับใบหน้า ก็จะช่วยเติมมิติและเสริมเสน่ห์ให้กับเราได้ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเลือกคลินิกศัลยกรรมจมูกที่ดีที่สุดด้วย เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควร ศัลยกรรมจมูกที่ไหนดี วันนี้เราได้นำข้อควรรู้ศัลยกรรมจมูกที่ไหนดีให้ได้ทรงจมูกรับกับใบหน้า สัดส่วนพอดีแบบธรรมชาติ มาฝากคนที่กำลังคิดว่าศัลยกรรมจมูกที่ไหนดีอยู่ ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันได้เลย การศัลยกรรมจมูกคืออะไร? การศัลยกรรมจมูกคือการเลือกเทคนิคต่างๆในการศัลยกรรมเพื่อตัดแต่งรูปทรงของจมูกให้ดูสวย ดูดีและได้ทรงที่เหมาะสมรับกับใบหน้า อีกทั้งยังมีการปรักแต่งจมูกให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม จึงสามารถช่วยเติมมิติให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี โดยการศัลยรรมจมูกนั้นมีทั้งแบบที่ไม่ใช้การผ่าตัด(การฉีดฟิลเลอร์)และใช้การผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

สิ่งต้องรู้ที่คุณไม่ควรพลาดสำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกให้มีความพร้อม
การศัลยกรรมเป็นสิ่งที่เป็นเรื่องที่ปกติและหลายคนนั้นต้องการเป็นอย่างมาก เพราะสามารถปรับเปลี่ยนใบหน้าของเราให้ดูมีความสมดุล ดูสมบูรณ์และสวยมากยิ่งขึ้น หนึ่งในอวัยวะของใบหน้าที่หลายคนนั้นอยากศัลยกรรมนั่นก็คือจมูก เพราะจมูกเป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า และแสดงมิติของใบหน้าได้เป็นอย่างดี การเสริมจมูกจึงช่วยให้เรานั้นดูสวยได้ทุกองศาของใบหน้า เติมเสน่ห์ปรับใบหน้าให้มีมิติมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่เราจะทำการเสริมจมูกได้นั้น จะต้องมีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบต่อการศัลยกรรม หากใครที่ยังไม่รู้ว่าต้องสิ่งต้องรู้ที่คุณไม่ควรพลาดสำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกให้มีความพร้อม มาฝากกัน จะมีอะไรที่ต้องเตรียมตัวบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันได้เลย สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกมีอะไรบ้าง? สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกข้อที่ 1 รู้ว่าก่อนเสริมจมูก จมูกของเรามีปัญหาด้านไหนบ้าง เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญมากๆกับการที่จะต้องตรวจและวิเคราะห์ว่าจมูกของเรานั้นมีปัญหาในด้านไหนบ้าง เช่น ปัญหาจมูกใหญ่ จมูกบาน ปัญหาไม่มีปลายจมูก

เราอยากสวยบ้าง อยากหน้าเป๊ะ เพื่อนเลยแนะนำเลยว่าต้องทำที่นี่ Dmor Clinic กับคุณหมอตุ๊ก
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อแนนค่ะ เราจะมารีวิวจมูกใหม่หลังทำมาครบ 6 เดือน กับ คุณหมอตุ๊ก ที่ Dmor Clinic สาขากรุงเทพรัชดา 36 ก่อนทำจมูก คิดแล้ว คิดอีก ว่าจะทำดีมั้ยน๊า ด้วยความที่เราเป็นช่างแต่งหน้าก็เองคิดว่าคงไม่ต้องทำก็ได้มั้ง แค่ใช้เทคนิคเฉดดิ้งจมูกก็น่าจะพอ 555 ( แอบกลัวเจ็บ กลัวนู่น กลัวนี่ไปหมด )จนเห็นจมูกเพื่อน

มาเจอที่ Dmor รู้สึกถูกใจ รู้สึกว่าที่นี่แหละ!! ชอบเพราะว่าธรรมชาติมากๆแล้วก็สวยเข้ากับหน้าทุกคนเลย
สวัสดีค่าทุกๆคน เข้าเรื่องเลยนะคะคือว่าเรามีความรู้สึกอยากทำดั้งตั้งแต่เรียนมหาลัยแล้ว แต่ว่าติดปัญหาอันยิ่งใหญ่ก็คือที่บ้านไม่ยอมให้ทำเด็ดขาดเลยค่ะจะโดนด่าตลอดเวลาพูดเรื่องทำศัลกรรมแต่เราก็ขอมาเรื่อยๆนะทนๆโดนด่าไป จนพ่อใจอ่อนอนุญาตแต่แม่นี่ยังไงเค้าก็ไม่ให้จนเราถอดใจไปพักใหญ่ จนเรียนจบในใจคิดว่าถ้าได้เกียรตินิยมจะเอาไปอ้อนแม่อีกที สุดท้ายก็ยอมค่ะ555555 ดีใจมากกกกก!! แล้วเราก็มาติดเรื่องเวลาค่ะเพราะว่าพอเรียนจบแล้วเราได้งานทำเลยจะลายาวๆก็ยังไม่ได้จนผ่านมาเกือบปี ก็ได้เวลาพอเหมาะเราลางานได้5วันก็เลยรีบไปจองคิวกับคุณหมอตุ๊กเลยค่ะ ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำที่ Dmor ก็เคยศึกษาที่อื่นมาบ้าง จนมาเจอที่ Dmor รู้สึกถูกใจ รู้สึกว่าที่นี่แหละ!! ดูจากรีวิวของคุณหมอหลายๆคน เราชอบเพราะว่าธรรมชาติมากๆแล้วก็สวยเข้ากับหน้าทุกคนเลย พอถึงวันทำได้มาคุยกับคุณหมอเราก็ยิ่งสบายใจค่ะ ตอนแรกก็อยากได้โด่งๆนะคะแต่พอคุยแล้วหมอบอกว่าเราเป็นคนเนื้อน้อยจะเสริมได้ไม่โด่งมากนะ แล้วเราเลือกที่จะเสริมด้วยกระดูกหลังอ่อนหูเพิ่มไปอีกค่ะ เอาให้ครั้งเดียวจบไป อีกอย่างคือฐานเราเอียงด้วยต้องตะไบเพิ่ม ส่วนเรื่องโด่งแค่ไหนเราให้คุณหมอเป็นคนจัดการเลยค่ะขอปลอดภัยกับเนื้อจมูกเราแล้วออกมาสวยพอ ความรู้สึกตอนทำนะคะ เราพยามผ่อนคลายไม่คิดมาก จะบอกว่าเจ็บน้อยมากๆเจ็บจี๊ดๆแค่ยาชาเองค่ะหลังจากนั้นสบายแล้วนอนชิลๆเลย มาดูรูปเราก่อนทำกันเลยนะคะ

ไขข้อสงสัยน่ารู้ ทำปากบางที่ไหนดี แก้ปัญหาริมฝีปากหนา ให้ริมฝีปากดูดี
โครงสร้างของใบหน้าแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของแต่ละคน ซึ่งไม่มีใครที่มีความสมบูรณ์มาตั้งแต่เกิด อาจจะมีสัดส่วนของใบหน้าที่ผิดเพี้ยนไปบ้าง การศัลยกรรมจึงเป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นได้และอาจจะทำให้หมดความมั่นใจนั่นก็คือ การที่เรามีริมฝีปากที่หนา ซึ่งทำให้ใบหน้าเราดูไม่มีมิติ ทำให้ใบหน้าดูแบน เนื่องจากปากนั้นเป็นส่วนที่ส่งผลกับภาพรวมของใบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งหากใครที่กำลังประสบปัญหานี้และมองหาว่าทำปากบางที่ไหนดี วันนี้เราได้นำข้อมูลดีๆในเรื่องของไขข้อสงสัยน่ารู้ ทำปากบางที่ไหนดี แก้ปัญหาริมฝีปากหนา ให้ริมฝีปากดูดี มาฝากคนที่มองหาว่าทำปากบางที่ไหนดีมาฝากกัน จะเป็นที่ไหนไปดูได้เลย การศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปากให้บางลงคืออะไร? เป็นการใช้เทคนิคในการศัลยกรรมรูปแบบต่างๆเพื่อตกแต่งริมฝีปากให้ดูบางลงกว่าเดิม ซึ่งมีรูปแบบหลักๆด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ การฉีดฟิลเลอร์และการผ่าตัด ซึ่งสามารถช่วยทำให้ริมฝีปากบางลง แก้ปากหนา

รวมเรื่องน่ารู้ ก่อนตัดสินใจทำจมูกผู้ชายอย่างไร ให้ได้ทรงจมูกที่ดูสวยเป๊ะ
ในปัจจุบันถือได้ว่าการศัลยกรรมนั้นเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครก็สามารถทำศัลยกรรมได้ทั้งนั้น ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยผู้ชายนั้นก็มีการเริ่มหันมาใส่ใจในการดูแลตนเองเช่นเดียวกับผู้หญิงด้วย ซึ่งการศัลยกรรมที่นิยมในผู้ชายนั่นก็คือการทำจมูกผู้ชายนั่นเอง โดยการทำจมูกผู้ชายนั้นสามารนถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าต้องศึกษาหาข้อมูลอะไรบ้างเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการศัลยกรรม หรือมีความกังวลว่าทำจมูกออกมาแล้วใบหน้าจะเปลี่ยนไปมากหรือไม่ วันนี้เราจึงได้รวบรวมความรู้ในเรื่องของรวมเรื่องน่ารู้ ก่อนตัดสินใจทำจมูกผู้ชายอย่างไร ให้ได้ทรงจมูกที่ดูสวยเป๊ะ มาฝากเหล่าคุณผู้ชายที่กำลังศึกษาในเรื่องของการทำจมูกอยู่ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีเรื่องอะไรที่น่ารู้น่าสนใจกันบ้าง เราไปลองดูพร้อมกันได้เลย ผู้ชายก็ทำจมูกได้ การทำจมูกผู้ชายคือการใช้เทคนิคในการศัลยกรรมเทคนิคต่างๆเพื่อเสริมให้จมูกดูโด่งและได้รูปทรงที่เหมาะสมรับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น โดยการทำจมูกผู้ชายแบบไม่ใช้การผ่าตัดจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์แทน ส่วนการผ่าตัดทำจมูกผู้ชายนั้นจะเป็นการผ่าเพื่อเปิดแผลและทำการใส่วัสดุหรือซิลิโคนเสริมจมูกเข้าไปและเย็บปิดแผล สามารถช่วยปรับแต่งรูปทรงจมูกให้ได้ตามต้องการ ได้สัดส่วนที่ถูกต้องสมบูรณ์ ซึ่งสัดส่วนของจมูกจะเป็น 1 ใน 3 ของใบหน้า