INTENSE PULSED LIGHT
IPL คืออะไร? ที่ดีมอร์ ต่างยังไง?
“หน้าใส ไร้รอยดำ แบบปลอดภัยๆ สบายใจตั้งแต่แรกทำ IPL ลำแสงที่ผ่านการทำสอบแล้วว่าได้ผลจริง กับเครื่องที่มีคุณภาพสูงที่ ดีมอร์ คลินิก จัดสรรมาให้คุณ”
IPL คืออะไร?
IPL ( Intense Pulsed Light ) คือ ระบบพลังงานแสงที่มีความเข้มสูง มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการรักษาสูง นำมาใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง แก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ทำให้หน้าเนียนใส ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวทำให้ผิวอ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย โดยใช้คลื่นแสงที่ไม่ใช่แสงเลเซอร์ แต่เป็นสเปกตรัมของแสงที่มีความยาว ตั้งแต่ 515-1200 นาโนเมตร โดยสามารถปรับแต่งสเปกตรัมได้โดยการเปลี่ยนฟิลเตอร์ (ตัวกรองแสง) เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละปัญหา โดยไม่ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บและไม่ต้องพักฟื้น
“ที่ ดีมอร์ คลินิก เราใช้เครื่องIPL คุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็น New Generation IPL โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ IPL ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า IPL หลายเท่า TGA Australia ยอมรับว่าปลอดภัยและได้ผลจริง “

IPL รักษาอะไรได้บ้าง?
- ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ผิวขาวใสขึ้น
- รอยด่างดำต่างๆ , กระ, ฝ้า โดยการทำลายเม็ดสีที่เข้มผิดปกติให้หลุดลอกออก
- ริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า IPL จะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้และทำให้เส้นใยอีลาสตินชั้นใต้ผิว จับตัวกัน แน่นมากขึ้นจึงส่งผลให้มี ผิวหน้า ที่เต่งตึงและทำให้ ริ้วรอย จางหายไปโดยเฉพาะริ้วรอยชั้นตื้น ๆ
- รอยแดง เส้นเลือดแดงฝอยเล็กๆ และฝ้าเส้นเลือด IPL จะทำลายเส้นเลือดฝอยเล็กๆและทำให้เส้นเลือดหดเล็กลง
- รูขุมขนที่กว้างจะกระชับเล็กลง
ข้อจำกัดหรือข้อควรปฏิบัติก่อนการรับการรักษาด้วย IPL มีอะไรบ้าง?
ข้อควรปฏิบัติตัวก่อนการรับการรักษา ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดเช่นอาบแดดหรือไปเที่ยวทะเลก่อนทำการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ขณะทำการรักษาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ขณะที่แสงถูกปล่อยออกมา จะรู้สึกเหมือนถูกหนังยางดีดเบาๆ และอุ่นเล็กน้อยบนผิว การทำการรักษาด้วย IPL ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดจึงไม่จำเป็นต้องทายาชา
ในการรักษาแต่ละครั้งใช้เวลานานแค่ไหน?
การรักษาอาจใช้เวลาตั้งแต่ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
ต้องรับการรักษากี่ครั้งจะเห็นผล?
ส่วนใหญ่การรักษาควรต่อเนื่องตั้งแต่ 4 – 6 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปหลังการรักษาเพียงครั้งเดียวจะรู้สึกได้ว่า ผิวเรียบขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น รอยดำและรอยแดงจางลง หลังการรักษาประมาณ 4 – 6 ครั้ง รอยแดงและรอยดำรวมทั้งกระตื้นจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด สีผิวสม่ำเสมอและเนียนใส
ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วย IPL
การรักษาด้วยวิธีนี้มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่พบในผู้รับการรักษาบางราย เช่น หลังทำจะรู้สึกร้อนที่ผิวประมาณ 20-30 นาที มีรอยแดงบางบริเวณซึ่งจะหายไปในเวลา 2–3 ชั่วโมง ในคนที่รักษากระตื้นอาจจะเกิดสะเก็ดหลังทำอยู่ประมาณ 3 – 7 วัน หลังทำการรักษาด้วย IPL ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดประมาณ 1-2 สัปดาห์และต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ
รีวิวจาก Facebook
No posts found!
รีวิวการแก้ไขหูกาง

คลินิกศัลยกรรมจมูกที่ดีควรมีลักษณะใดบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูกที่ดี
การทำศัลยกรรมจมูกนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องยอดนิยมเป็นอย่างมากในบรรดาเหล่าวัยรุ่นและคนทั่วไปในสมัยนี้ที่ต้องการดูแลตนเองและปรับเปลี่ยนให้ดูสวยมากยิ่งขึ้น ยิ่งจมูกนั้นอยู่จุดกึ่งกลางของใบหน้ายิ่งทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังแสดงมิติ องศาของใบหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันนั้นก็มีคลินิกทำศัลยกรรมเกิดขึ้นมามากมายให้เราเลือก บางคนนั้นอาจจะยังเกิดคำถามว่าเราควรเลือกคลินิกศัลยกรรมอย่างไรดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและพึงพอใจ อีกทั้งยังมีความปลอดภัย วันนี้เราจึงได้รวบรวมความรู้ในเรื่องของคลินิกศัลยกรรมจมูกที่ดีควรมีลักษณะใดบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูกที่ดี มาฝากให้กับทุกคนที่กำลังพิจารณาและตัดสินใจว่าควรทำศัลยกรรมจมูกที่คลินิกไหนดี ถ้าอยากรู้แล้วว่าลักษณะของคลินิกศัลยกรรมจมูกที่ดีควรเป็นอย่างไร เราไปดูพร้อมกันได้เลย คลินิกศัลยกรรมจมูกที่ดีควรมีลักษณะใดบ้าง เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรอง เลขที่ใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข โดยต้องสามารถตรวจสอบได้ มีการติดใบรับรองให้เห็นได้อย่างชัดเจน และต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก

รวมเรื่องน่ารู้กับเทคนิคในการทำจมูกแบบเปิดคืออะไร เพื่อปรับทรงจมูกให้ดูได้สัดส่วนธรรมชาติ
ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีต่างๆก็ได้มีการวิวัฒนาการก้าวหน้าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้สิ่งต่างๆก็มีการพัฒนาตามขึ้นไป ในเรื่องของการศัลยกรรมก็เช่นกัน หนึ่งในการศัลยกรรมที่ยอดนิยมตลอดกาลคงหนีไม่พ้นการทำจมูก เพราะเป็นส่วนที่มีความสำคัญและแสดงถึงมิติของใบหน้าได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันจึงมีเทคนิคการทำจมูกเกิดขึ้นมามากมาย อาทิเช่น การทำจมูกแบบเปิด การทำจมูกแบบปิด เป็นต้น วันนี้เราจึงพาทุกคนไปรู้จักการทำจมูกแบบเปิด กับข้อมูลดีๆในเรื่องของรวมเรื่องน่ารู้กับเทคนิคในการทำจมูกแบบเปิดคืออะไร เพื่อปรับทรงจมูกให้ดูได้สัดส่วนธรรมชาติ ที่เราได้นำมาฝากและให้ความรู้กับทุกคนที่มีความสนใจในการศัลยกรรมจมูกกันในวันนี้ จะมีข้อมูลดีๆอะไรกันบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันได้เลย การทำจมูกแบบเปิด คืออะไร? การทำจมูกแบบเปิด หรือที่เรารู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า การทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty)

อยากมีจมูกที่ดูสวย เพิ่มมิติให้ใบหน้าดูดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการเสริมจมูกแบบเปิด
การศัลยกรรมถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ใครๆก็อยากทำเพื่อแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆที่เป็นจุดบกพร่องบนร่างกายของเรา ซึ่งนึ่งในการศัลยกรรมยอดฮิตคงหนีไม่พ้นการศัลยกรรมจมูกหรือที่เราเรียกกันว่าการเสริมจมูก เนื่องจากจมูกนั้นเป็นจุดที่มีความสำคัญ อยู่ตรงกลางของใบหน้า ทำให้เป็นส่วนที่กำหนดมิติของใบหน้าได้เป็นอย่างดี บางคนนั้นอาจจะมีจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน ทำให้หมดความมั่นใจไปได้ วันนี้เราจึงได้นำหนึ่งในเทคนิคในการเสริมจมูก ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน นั่นก็คือ การเสริมจมูกแบบเปิดนั่นเอง มาให้ความรู้ในเรื่องอยากมีจมูกที่ดูสวย เพิ่มมิติให้ใบหน้าดูดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการเสริมจมูกแบบเปิด ถ้าใครอยากรู้แล้วว่าการเสริมจมูกแบบเปิดเป็นอย่างไรและมีข้อดีอย่างไรนั้น เราไปหาคำตอบพร้อมๆกันได้เลย การเสริมจมูกแบบเปิดคืออะไร? การเสริมจมูกแบบเปิดหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เป็นเทคนิคในการเสริมจมูกรูปแบบหนึ่งที่ทำการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลบริเวณภายนอกออก โดยเปิดแผลตั้งแต่ ด้านหน้าตรงบริเวณฐานรูจมูกทั้งสองข้างจนไปถึงเห็นแกนจมูก เป็นการเปิดแผลที่มีขนาดใหญ่ไม่มาก

ตอบข้อสงสัย เสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ กลับมาดูสวย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การศัลยกรรมที่ต่างได้รับความนิยมสูง นั่นก็คงหลีกหนีไม่พ้นการเสริมจมูก ซึ่งเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมสูงอยู่ ทำให้มีการพัฒนาเทคนิคและรูปแบบในการเสริมจมูกเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการทำจมูกนั่นก็คือ การเสริมจมูกแบบโอเพ่น ซึ่งการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นเป็นเทคนิคในการเสริมจมูกที่สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ ทำให้หลายคนสนใจที่จะทำจมูกรูปแบบนี้ ซึ่งหนึ่งในคำถามยอดนิยมนั่นก็คือ เสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ และได้จมูกที่ดูดี ดูสวย วันนี้เราจึงได้นำความรู้ดีๆ มาตอบข้อสงสัย เสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ กลับมาดูสวย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ให้กับคนที่กำลังสงสัยว่าเสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูพร้อมกันได้เลย การเสริมจมูกโอเพ่นมีแบบไหนบ้าง? รูปแบบของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นจะมีหลายแบบแตกต่างกันออกไป ทำให้คำถามที่ว่าเสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบที่เลือกใช้เสริมจมูกด้วย

เสริมจมูกแบบโอเพ่น หมอไหนดี ให้จมูกหลังทำออกมาดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้า
เชื่อว่าในปัจจุบันวงการของการเสริมความงามนั้นคงเป็นเรื่องที่ใครๆก็ต่างให้ความสนใจและอยากทำกันทั้งนั้น เพราะการเสริมความงามสามารถช่วยปรับใบหน้าในส่วนที่เป็นจุดบกพร่องให้กลับมาดูสวยและปรับให้ใบหน้าดูดีได้มากยิ่งขึ้น หนึ่งในเรื่องของการเสริมความงามที่นิยมนั่นก็คือการเสริมจมูก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายวิธี อีกทั้งนอกจากจะต้องเลือกเทคนิคในการเสริมจมูกแล้วนั้นยังต้องเลือกหมอหรือศัลยแพทย์ให้ถูกต้อง เหมาะสมอีกด้วย หนึ่งในการเสริมจมูกที่นิยมคือการเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพราะสามารถช่วยปรับโครงสร้างจมูกของเราได้ แต่บางคนคงมีคำถามว่าแล้วถ้าเสริมจมูกแบบโอเพ่น หมอไหนดี หากใครที่กำลังอยากรู้ว่าเสริมจมูกแบบโอเพ่น หมอไหนดีนั้น วันนี้เราได้นำความรู้ในเรื่องเสริมจมูกแบบโอเพ่น หมอไหนดี ให้จมูกหลังทำออกมาดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้ามาฝากกัน จะเป็นอย่างไรไปดูได้เลย การเสริมจมูกแบบโอเพ่นคืออะไร? การเสริมจมูกแบบโอเพ่นคือการศัลยกรรมจมูกโดยการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลภายนอก โดยเปิดแผลจากด้านหน้าตรงบริเวณฐานรูจมูกทั้งสองข้างจนเห็นแกนจมูก จากนั้นทำการแยกผิวหนังกับโครงสร้างจมูกออกจากกัน ทำให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในของจมูกได้อย่างชัดเจน เป็นหนึ่งในเทคนิคการเสริมจมูกที่สามารถแก้ไขโครงสร้างของจมูกได้โดยตรง แก้ไขความผิดปกติของจมูกได้ในทุกรูปแบบ

ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือก Dmor Clinic จมูกนี้…แม่ให้มานะคะ แม่ตุ๊ก 555 ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยค่าาา
สวัสดีค่ะ เราชื่อปลา นะคะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ การทำจมูกครั้งแรกในชีวิตให้เพื่อนๆฟังกันค่ะ เริ่มเลยนะคะ….อันนี้เป็นรูปก่อนทำค่ะ จมูกค่อนข้างสั้นและไม่โด่ง ดูไม่มีมิติเท่าไหร่ เวลาถ่ายรูปก็ต้องเอียงหน้า หรือไม่ก็หันข้างตลอด กว่าจะหามุมถูกใจได้ คนถ่ายเหนื่อยมากค่ะ 55555 เรามีความคิดเริ่มอยากทำจมูกตั้งแต่จบ ม.6 แล้วค่ะ เพราะอยากสวยตอนเข้าเรียนปี 1 พอดี แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งกลัวเจ็บบ้าง ทั้งยังหาคลินิคที่ถูกใจไม่ได้ เลยยังไม่ได้ทำค่ะ จนมาถึงตอนเรียนจบปี 4